The name of Talking to HER and its physicality; the realistic paintings which I've created will be taken as a key I offer to my audiences in order to open the inner space full of stories, feelings, philosophy, reality, thinking, love, separation, fear, dreadfulness, peace, suffering, happiness  understanding, and the way to surpass all. The attitude towards all are  fused into the set of 18 paintings.

Young lady, she who is in the painting is not just representation feeling but she is the representation of this  world.

Rose is not just a symbol of love and passion that fool us around cut represents the separation also.

The bird is not an embodiment of freedom but profoundly refers to incarnation; the beginning and the end.

The skeleton isn't only death but signify separation, fear, suffering, and isolation as the eternal truth that is "There will be division and separation from all that are dear to me and beloved.

Only if the audiences allow their sensations to experience, let their eyes open and truly see, spend their time considering, they could perceive my emotional intention that I embedded in each painting according to my will to manifest the stories full of emotion narrated by words.

ชื่อชุดศิลปกรรม Talking to HER สนทนากับเธอ  และกายภาพ  รูปแบบผล
งานที่เหมือนจริง (Realistic) ที่ข้าพเจ้าสร้างสรรค์ขึ้นในชุดนี้  ถือเป็นกุญแจ
ที่ข้าพเจ้าหยิบยื่นให้ผู้ดูงานศิลปกรรมชุดนี้ของข้าพเจ้า  เปิดประตูเข้าสู่
ห้องภายในที่เต็มไปด้วยเรื่องราว อารมณ์ ความรู้สึก  ปรัชญา  ความจริง
ความคิด เรื่องของความรัก  ความพลัดพราก  ความกลัวและความพรั่นพรึง
ความสงบ ความทุกข์สะเทือนใจ  ความสุขใจ  ความเข้าใจและการค้นพบ
ทางออกของใจ  ทัศนคติถูกหล่อรวมธาตุ  อยู่ในผลงานจิตรกรรมที่สร้าง
สรรค์ขึ้นมาทั้ง 18 ชิ้น

สตรี ผู้หญิงสาวที่อยู่ในรูปไม่ใช่เป็นเพียงตัวแทนความงาม  ความรู้สึกเพียง
อย่างเดียว หากแต่เธอคือตัวแทนของภพนี้ (โลกภพ)

กุหลาบไม่ใช่เพียงตัวแทนของความรัก ความหลงที่โปรยปลิวรอบตัวเรา
แต่หากแสดงถึงความพลัดพรากจากไป กอปรไปด้วยกัน

วิหค ในภาพไม่ใช่เป็นเพียงตัวแทนความอิสระ แต่หากมันบ่งบอกลึกไปถึง
การมาการไปของภพชาติ ที่ต้องมีทางเข้าทางออก และตอนจบ

โครงกระดูก  มิใช่เพียงความตายแต่มีนัยยะบอกถึงความพรากจาก  ความ
กลัว  ความทุกข์ ควมพรั่นพรึงและความเดียวดายที่มีอยู่ในโลกใบนี้  ดั่งสัจธรรมคำสอนที่ว่า เราจะต้องพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจทั้งสิ้นไป

หากผู้ดูงานน้อมจิตใจใช้ประสาทสัมผัสหยั่งให้แผ่กว้าง ใช้ผัสสะทางตา
มองดูรูปจิตรกรรมบวกกับมโนคิดและความรู้สึกสักช่วงเวลาหนึ่ง จะเห็น
ห้วงอารมณ์ความรู้สึกที่ข้าพเจ้าจงใจแช่แข็งมันไว้ในจิตรกรรมแต่ละชิ้น
ตามแต่ละเจตนารมณ์ที่ต้องการแสดงสภาวะอารมณ์เรื่องราว ที่บรรยาย
ออกมาเป็นภาษาพูด ภาษากวีไม่ได้